ตกอับหลังเสียแชมป์ ของ รัตนพล ส.วรพิน

หลังจากนั้น รัตนพลก็พยายามชกมวยเพื่อที่จะกลับมาเป็นแชมป์โลกอีกครั้ง แต่ก็มีปัญหาเรื่องผลประโยชน์กับทางหัวหน้าคณะและผู้จัดการคือ นางวรพินมาโดยตลอด เนื่องจากนางวรพินถือสิทธิ์เป็นผู้จัดการไปด้วยหลังจาก พ.อ.(พิเศษ) บรรจุ อ่องแสงคุณ เสียชีวิตไปหลังจากรัตนพลได้แชมป์โลกในสมัยแรกไม่นาน โดยรัตนพลเคยหนีออกจากค่ายหลายครั้ง รวมทั้งชวนน้องชายคือ รัตนชัย หนีไปด้วย และได้พยายามย้ายสังกัดไปเป็นอิสระหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ได้มีการขอขมาและเคลียร์เรื่องราวกันในที่สุด

รัตนพลมีโอกาสชิงแชมป์โลกอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2541โดยขยับขึ้นไปชกในรุ่นไลท์ฟลายเวท ได้ชิงแชมป์โลกรุ่นนี้ของ IBF ที่ว่างเมื่อ 18 ธันวาคม แต่ก็เป็นฝ่ายแพ้คะแนน วิล กริกส์บี นักมวยชาวอเมริกัน ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปีถัดมา ได้รับการสนับสนุนให้ชิงแชมป์ไลต์ฟลายเวต PABA ที่ว่าง แต่แพ้น็อก ยูรา ดิมาร์ นักมวยชาวมองโกเลีย ในปี พ.ศ. 2542 ก่อนที่จะได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกอีกครั้งในปี พ.ศ. 2543 ที่สหรัฐอเมริกา แต่ก็เป็นฝ่ายแพ้น็อกยกที่ 3 ริการ์โด โลเปซ ไปอย่างสู้ไม่ได้ จึงแขวนนวมไป

หลังจากแขวนนวม ฐานะของรัตนพลลำบากมาก ทรัพย์สินที่ได้จากการชกมวยมาทั้งหมด ก็มีเหลือไม่เท่าไหร่ ต้องไปขายบะหมี่เกี๊ยวรถเข็น โดยมีภรรยาเป็นผู้ช่วย ที่ย่านบางโพ และได้เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลเป็น ปรีชา เจริญธาดา สื่อมวลชนได้นำเสนอเรื่องราวชีวิตส่วนนี้ของรัตนพลจนเป็นที่รับรู้โดยทั่วไปของสังคมอยู่ช่วงหนึ่ง รัตนพลกลับมาชกมวยอีกครั้ง เมื่อ 5 สิงหาคม 2548 ในสังกัดของก่อเกียรติกรุ๊ป ของนายก่อเกียรติ พณิชยารมย์ ได้เป็นเพียงแค่แชมป์ PABA รุ่นฟลายเวทจนปี 2551 ก็เสียแชมป์ แพ้คะแนน ริชาร์ด การ์เซีย ที่ นครราชสีมา แต่เมื่อรัตนพลไปชกที่ญี่ปุ่นเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2552 ชนะน็อก โนะริยุกิ โคะมะสึ อดีตผู้ท้าชิงแชมป์โลกของพงษ์ศักดิ์เล็ก ศิษย์คนองศักดิ์ ยกแรก จึงได้ชิงแชมป์ PABA รุ่นเดิมอีกครั้ง แต่พอป้องกันครั้งแรก ก็แพ้ เรย์ มิเกรโน เสียแชมป์ไปเมื่อ 10 กรกฎาคม 2552 จากนั้น รัตนพลจึงแขวนนวมไปโดยเด็ดขาด[2]

ในปัจจุบัน เรื่องราวของรัตนพลได้ถูกนำไปผลิตเป็นละครสั้นในโครงการของ วัดพระธรรมกาย ในเรื่อง "แชมป์ชีวิต" และรัตนพลเองได้นำดีวีดีละครเรื่องดังกล่าวซึ่งเป็นชีวประวัติของตัวเอง นำมาจำหน่ายโดยการตระเวนขายตามร้านอาหารต่าง ๆ [3]

ใกล้เคียง